การวิเคราะห์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
๓. การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาท้องถิ่น
๓.๑ การวิเคราะห์กรอบการจัดทำยุทธศาสตร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปีขององค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบได้ใช้การวิเคราะห์ SWOT Analysis/Demand (Demand Analysis)/Global Demand และ Trend ปัจจัยและสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการพัฒนา อย่างน้อยต้องประกอบด้วย การวิเคราะห์ศักยภาพด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านทรัพย์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การวิเคราะห์จุดแข็ง (Strength = S) เป็นการพิจารณาปัจจัยภายในของหน่วยงานในส่วนที่ดี ความเข้มแข็ง ความสามารถ ศักยภาพ ส่วนที่ส่งเสริมความสำเร็จซึ่งจะพิจารณาในด้านต่างๆ
การวิเคราะห์จุดอ่อน (Weakness = W) เป็นการพิจารณาปัจจัยภายในหน่วยงานว่ามีส่วนเสีย ความอ่อนแอ ข้อจำกัด ความไม่พร้อม ซึ่งจะพิจารณาในด้านต่างๆ เช่นเดียวกับการวิเคราะห์จุดแข็ง
การวิเคราะห์โอกาส (Opportunity = O) เป็นการศึกษาสภาพแวดล้อมภายนอกว่ามีสภาพเป็นอย่างไร โดยพิจารณาด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครองและเทคโนโลยี
การวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคหรือข้อจำกัด (Threat = T) เป็นการศึกษาสภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็นอุปสรรคหรือภาวะคุกคาม ก่อให้เกิดผลเสีย โดยพิจารณาด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง และเทคโนโลยี
การวิเคราะห์ศักยภาพเพื่อประเมินสถานการณ์การพัฒนาในปัจจุบันและโอกาสการพัฒนาในอนาคต องค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบ ที่ตั้งลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ดอนและที่ราบลุ่ม มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก และเลี้ยงสัตว์ ประกอบกับการคมนาคมที่สะดวก สามารถเดินทางติดต่อระหว่างจังหวัดได้อย่างรวดเร็ว และมีหน่วยงานราชการหลักอยู่ในพื้นที่ คือโรงเรียนการบิน กองทัพอากาศ ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมีการสร้างอาคารพาณิชย์ หมู่บ้านจัดสรร ร้านค้าต่างๆ จำนวนมาก จึงทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบมีศักยภาพที่จะพัฒนาตำบลกระตีบให้มีประสิทธิภาพในทุกๆ ด้าน โดยได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล ดังต่อไปนี้
การวิเคราะห์ศักยภาพเพื่อประเมินสถานภาพการพัฒนาในปัจจุบันและโอกาสการพัฒนาในอนาคตของท้องถิ่น ด้วยเทคนิค SWOT Analysis (จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค)
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน
จุดแข็ง (Strength)
๑. องค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบแบ่งส่วนราชการออกเป็น ๔ กอง คือ สำนักงานปลัด กองคลัง กองช่าง และกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และมีคำสั่งแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน
๒. มีสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน
๓. การจัดโครงการ/กิจกรรมต่างๆ มีการประสานงานประชุมปรึกษาหารือก่อนทุกครั้ง
๔. ผู้บริหารใช้พฤติกรรมการบริหารแบบครอบครัวสมาชิกในองค์กร
๕. บุคลากรมีวิธีการในการทำงานเป็นทีม
๖. มีโครงสร้างที่กำหนดให้ผู้บริหารมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ทำให้การตัดสินใจของผู้บริหารสนองตอบความต้องการของประชาชนได้ตรงประเด็น
๗. ผู้บริหารและสมาชิกสภา อบต. มีความใกล้ชิดและเข้าถึงประชาชนได้อย่างเป็นกันเอง
๘. ผู้บริหารท้องถิ่นสามารถกำหนดนโยบายได้เองภายใต้กรอบของกฎหมาย
๙. สามารถจัดกรอบอัตรากำลังได้เองตามภารกิจหน้าที่ที่ได้รับ
๑๐. เป็นหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด
จุดอ่อน (Weakness)
๑. งบประมาณของ อบต. มีจำนวนจำกัดเมื่อเทียบกับภารกิจหน้าที่ได้รับ
๒. ขาดการส่งเสริมด้านการรวมกลุ่มอาชีพอย่างจริงจัง
๓. ขาดบุคลากรที่มีความชำนาญเฉพาะทางในการปฏิบัติงาน บุคลากรรับผิดชอบงานหลายด้าน
๔. การรวมกลุ่มและการสร้างเครือข่ายมีน้อย
๕. มีระเบียบ/กฎหมายใหม่ๆ มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้การปฏิบัติงานของบุคลากรไม่ทันต่อเหตุการณ์
๖. อบต.กระตีบ มีภารกิจที่ต้องดำเนินการแต่ไม่มีหน่วยงานรองรับอย่างเพียงพอ
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก
โอกาส (Opportunity)
๑. พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ ได้กำหนดการถ่ายโอนภารกิจ อำนาจหน้าที่ในการบริการสาธารณะให้ อปท.
๒. มีโรงพยาบาลจันทรุเบกษาและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกระตีบ เข้ามาร่วมบูรณาการการทำงานด้านการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ การจัดการสุขภาพของประชาชน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
๓. มีพื้นที่ส่วนใหญ่ทำการเกษตร
๔. มีโรงเรียนการบิน ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลกระตีบ
อุปสรรค (Threat)
๑. ต้นทุนการผลิตราคาสูง เช่น ราคาปุ๋ย เมล็ดพันธุ์พืช ค่าขนส่ง ค่าแรงงานสูงขึ้น
๒. ประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง เช่น สิทธิเสรีภาพ การมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาตำบล ฯลฯ
๓. เกษตรกรไม่มีความรู้ในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงคุณภาพ และเพิ่มผลผลิต
๔. ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้การจัดสรรงบประมาณให้แก่ท้องถิ่นล่าช้า ทำให้การกำหนดทิศทางการบริหารงานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนไม่ทันตามที่กำหนด
๕. สภาพสังคมบางส่วนในพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของยาเสพติด ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมและครอบครัว
สรุปผลการวิเคราะห์ (SWOT)
3.2 การประเมินสถานการณ์สภาพแวดล้อมภายนอกที่เกี่ยวข้อง
สถานการณ์การพัฒนาขององค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบ ได้ทำการวิเคราะห์ศักยภาพเพื่อประเมินสถานการณ์การพัฒนาในปัจจุบัน และโอกาสการพัฒนาในอนาคตขององค์การบริหารส่วนตำบล โดยใช้เทคนิค SWOT Analysis ได้แก่ การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และข้อจำกัด ซึ่งการวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของประชาชนในตำบลกระตีบ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ปัญหาด้านเศรษฐกิจ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และรับจ้างประสบปัญหาเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ขาดการรวมกลุ่มประกอบอาชีพเสริม ตลอดจนเรื่องของค่าครองชีพที่สูงขัดแย้งกับรายได้ ที่ต่ำ
ปัญหาด้านสังคม
ปัจจุบันเกิดปัญหาเรื่องของยาเสพติดของกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากครอบครัวที่แตกแยก หรือพ่อแม่ไม่มีเวลาที่จะเอาใจใส่และอบรม เนื่องมาจากการหาเลี้ยงชีพ ตลอดจนในเรื่องของผู้ด้อยโอกาสในสังคม เด็กที่ถูกทอดทิ้ง ผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ คนพิการที่ถูกสังคมมองว่าไร้ค่า หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ถึงแม้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเข้าช่วยแก้ไขและยื่นมือไปช่วยเพียงใดก็ยังไม่เพียงพอกับปริมาณของปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างทวีคูณ
ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐาน
เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการขยายตัวของชุมชน มีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ปัญหาจากรถบรรทุกดิน หิน ทรายวิ่งบนถนนในพื้นที่ ทำให้สภาพถนนชำรุด เป็นหลุมเป็นบ่อ บางเส้นทางเมื่อฝนตกเกิดปัญหาน้ำขังและลื่นทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ปัญหาด้านแหล่งน้ำ
เรื่องของแหล่งกักเก็บน้ำ/คูคลอง/ห้วย/หนอง/บึง ที่ตื้นเขินและมีวัชพืชขึ้นขวางทางน้ำ ในช่วงฤดูฝนเกิดปัญหาน้ำท่วมเพราะพื้นที่บางส่วนราบลุ่มต่ำ ในเรื่องของน้ำประปาไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชนโดยเฉพาะช่วงฤดูแล้ง
ปัญหาด้านการเมืองการบริหาร
ประชาชนยังไม่เข้าใจในบทบาทหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล หวังให้การพัฒนามุ่งความสำคัญแต่เรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ขาดความสนใจเรื่องของสถาบันครอบครัว เยาวชน ผู้ด้อยโอกาสในสังคม ตลอดจนเรื่องของการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญในท้องถิ่น
ปัญหาด้านการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ด้านการศึกษา เด็กยังขาดแคลนทุนทรัพย์ทางการศึกษา และผู้ปกครองมีค่านิยมส่งลูกหลานเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง
ศาสนาและวัฒนธรรม ปัจจุบันถูกมองข้ามและละเลยไปด้วยค่านิยมและวัตถุนิยมของต่างชาติ ทำให้ประเพณี วัฒนธรรมที่ดีกำลังจะถูกลืม ตลอดจนเรื่องของภูมิปัญญาชาวบ้าน วิถีชีวิต ปราชญ์ชาวบ้าน ก็กำลังจะสูญหายเพราะขาดความสนใจและมองข้ามความสำคัญไป
ปัญหาด้านสาธารณสุข
ประชาชนยังขาดการดูแลเอาใจใส่ในสุขภาพอนามัยของตนเอง ขาดความรู้ในการโภชนาการและการป้องกันตัวเองให้ห่างจากโรคติดต่อต่าง ๆ
ปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การเติบโตของชุมชนเมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยขาดความรู้ในการจัดการสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องการกำจัดขยะมูลฝอย
ปัญหาในด้านการบริหารงานของตำบล
ประชาชนไม่ให้ความสำคัญต่อการประชาคมหมู่บ้าน ประชาคมตำบล และการจัดทำแผนชุมชนที่เกี่ยวข้อง